ผล ไม้ ลิ้นจี่ / ลิ้นจี่ ผลไม้ขายดี พืชเศรษฐกิจโกยเงิน

การให้ปุ๋ย การให้ปุ๋ยต้นลิ้นจี่แบ่งออกได้เป็น 2 ช่วงคือ ช่วงต้นเล็กก่อนให้ผลผลิตและช่วงให้ผลผลิตแล้ว การให้ปุ๋ยแต่ละช่วงมีเป้าหมายต่างกัน ทำให้ต้องใช้สูตรปุ๋ย อัตราปุ๋ยและเวลาให้แตกต่างกัน 1. เกษตรกรควรวิเคราะห์ดินก่อนปลูก เพื่อปรับปรุงดินให้เหมาะสม และเพื่อการใส่ปุ๋ยอย่างถูกต้อง 2. กรณีที่ปลูกลิ้นจี่แล้ว ควรเก็บตัวอย่างดินวิเคราะห์อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อจะได้ทราบว่าการปรับปรุงดินและการใส่ปุ๋ย ในแต่ละปีทำให้ดินมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ควรคัดปรับปรุงหรือใส่ปุ๋ยเพิ่มเติมอย่างไร 3. การให้ปุ๋ยลิ้นจี่ที่ให้รวบรัดแล้ว ควรคำนึงถึงปริมาณเป็นหลักในการใส่ปุ๋ย และควรพิจารณาปริมาณธาตุอาหารที่คงเหลืออยู่ในดินประกอบด้วย 4. เกษตรกรควรมีการเก็บตัวอย่างใบวิเคราะห์อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เมื่อในชุดที่ 1 อายุ 45-50 วัน และก่อนยึดช่อดอก 5. การใส่ปูนโคโลไมท์ จะใส่เฉพาะในดินที่เป็นกรด และมีแมกนีเซียมในดินต่ำ 6. ดินที่มี pH เป็นกรดระดับเดียวกัน ต้องการปูนสะเทินความเป็นกรดไม่เท่ากัน ถ้าเนื้อดินต่างกัน 7. ไม่ควรแนะนำให้ใส่ปูน และปุ๋ยก่อนทราบค่าวิเคราะห์ดิน เพราะอันตรายมาก ถ้าดินเสียแล้วจะแก้ไขยาก การให้น้ำ การให้น้ำแก่ต้นลิ้นจี่ปลูกใหม่ในระยะ 2 ปีแรก โดยทั่วไปแล้วปริมาณน้ำที่ต้องรดให้แก่ต้นไม้ที่ปลูก ในปีแรกและปีที่ 2 ประมาณ 20-60 ลิตร ต่อระยะ 4-5 วัน (รดให้ดินเปียกน้ำกว้าง 0.

ลิ้นจี่ - ฐานข้อมูลพันธุกรรมพืชสวน : ฐานข้อมูลพันธุกรรมพืชสวน

  1. ลิ้นจี่ ผลไม้ขายดี พืชเศรษฐกิจโกยเงิน
  2. ลิ้นจี่ และเงาะ
  3. ไทเป ประเทศ อะไร
  4. ดูหนังออนไลน์ฟรี 2021 เต็มเรื่องพากย์ไทย
  5. มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์
  6. สถานตากอากาศบางปู จ.สมุทรปราการ - เฮฮาบ้าบอดอทคอม

ลิ้นจี่ และเงาะ

หลังจากปลูกเลี้ยงต้นกล้าให้ความสูงประมาณ 80-100 เซนติเมตร จึงตัดยอดเพื่อสร้างกิ่งข้าง 2. รอจนแตกตาข้างยาวประมาณ 50 เซนติเมตร ให้เลือกกิ่งที่ทำมุมกว้างกับลำต้นไว้ 3-4 ยอดรอบๆ ลำต้น แล้วจึงตัดปลายยอดออก ให้เหลือความยาวกิ่งประมาณ 50 เซนติเมตร ปล่อยไว้แตกกิ่งแขนงโดยรอบยาวประมาณ 50 เซนติเมตร โดยเลือกกิ่งทำมุมกว้างกับกิ่งหลัก 3-4 กิ่งตัดปลายยอดออก ให้เหลือความยาวกิ่งประมาณ 50 เซนติเมตรเช่นกัน โดยถือปฏิบัติเช่นนี้ จนต้นลิ้นจี่มีอายุ 3-4 ปี จึงปล่อยให้ต้นลิ้นจี่ออกดอกติดผล 3. วิธีการนี้จะลดปัญหาเรื่องการใช้ไม้ค้ำยันให้กับต้นลิ้นจี่ได้อย่างดียิ่ง การควบคุมทรงต้นและการตัดแต่งกิ่งลิ้นจี่ต้นใหญ่ 1. การตัดกิ่งในทรงพุ่ม 2. การตัดกิ่งเพื่อเปิดกลางทรงพุ่ม จนแสงแดดสามารถส่องผ่านลงถึงโคนต้น 3. การตัดยอดลิ้นจี่เพื่อควบคุมความสูง 4. การตัดยอดหรือกิ่งลิ้นจี่ที่ประสานกันจนไม่สามารถจะออกดอกติดผลได้ การจัดการวัชพืช การจัดการวัชพืชในสวนลิ้นจี่นั้นจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับอายุหรือขนาดของลิ้นจี่ซึ่งอาจแบ่งเป็น 2 ช่วงอายุ คือ ลิ้นจี่เล็กและลิ้นจี่ใหญ่ 1. การกำจัดวัชพืชรอบโคนลิ้นจี่เล็ก วิธีการใช้จอบถากนั้น ไม่จำเป็นต้องใช้รัศมีรอบโคนห่างนัก เพียงแต่ถากวัชพืชให้กว้างออกจากโคนต้นพอประมาณ ที่จะใส่ปุ๋ย ให้น้ำได้ เมื่อถากเสร็จอาจใช้เศษวัชพืชเหล่านั้นหรือวัสดุอื่น ๆ เช่น ฟางข้าวมาคลุมรอบโคนซึ่งช่วยป้องกันการขึ้นของวัชพืชที่จะงอกออกมาใหม่ อีกทั้งยังเป็นการช่วยรักษาความชื้นในดินด้วย การถากด้วยจอบในการกำจัดรอบโคนนี้ อาจให้รัศมีความกว้างออกจากโคนต้นประมาณ 1 เมตรขึ้นไป และเมื่อต้นใหญ่ขึ้นก็ต้องขยายออกไปตามขนาดของทรงพุ่ม 2.

ลิ้นจี่ ผลไม้ขายดี พืชเศรษฐกิจโกยเงิน

พันธุ์ที่ปลูกมากในภาคกลาง และภาคตะวันตก เป็นพันธุ์ที่ทน และเติบโตได้ดีในสภาพอากาศที่หนาวเย็นน้อย ได้แก่ – พันธุ์ค่อม (ค่อมลำเจียก) – พันธุ์กะโหลกใบยาว – พันธุ์สำเภาแก้ว – พันธุ์กระโถนท้องพระโรง – พันธุ์เขียวหวาน – พันธุ์ไทยใหญ่ – พันธุ์กระโหลกใบไม้ – พันธุ์กระโหลกในเตา – ฯลฯ 2. กลุ่มพันธุ์ที่ปลูกทางภาคเหนือ เป็นพันธุ์ที่เติบโตได้ดี และผลผลิตสูงในสภาพอากาศที่หนาวเย็น พันธุ์ที่นิยม ได้แก่ – พันธุ์ฮงฮวย – พันธุ์จักรพรรดิ – พันธุ์กิมเจง – พันธุ์โอวเฮียะ – พันธุ์กวางเจา – พันธุ์บริวสเตอร์ – พันธุ์กิมจี๊ พันธุ์ลิ้นจี่ที่นิยมปลูกกันมาก ได้แก่ พันธุ์ฮงฮวย พันธุ์จักรพรรดิ และพันธุ์กิมเจ็ง ซึ่งนิยมปลูกทั้งในพื้นที่อากาศหนาวเย็นสั้น และหนาวเย็นนาน จะเก็บผลออกสู่ตลาดในเดือนพฤษภาคม-กรกฏาคม 1. พันธุ์ฮงฮวย พันธุ์ฮงฮวย จัดเป็นพันธุ์ที่ปลูกมากที่สุดในภาคเหนือ ทรงพุ่มมีขนาดใหญ่ ลำต้นสูงประมาณ 10-12 เมตร ยอด และใบอ่อนมีสีเหลืองอ่อนปนเขียว ใบมีลักษณะยาวรี ขนาดใหญ่ โคนใบกว้าง ปลายใบแหลมน้อย ข้อใบยาว ผลมีขนาดใหญ่ รูปหัวใจ ผลกว้างประมาณ 3. 5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 3. 8 เซนติเมตร ผลหนักประมาณ 25-35 กรัม เปลือกผลบาง ผิวเปลือกสีแดงอมชมพูค่อนข้างจาง ตุ่มหนามเกิดห่าง ภายในมีเนื้อสีขาวขุ่น ให้รสหวานอมเปรี้ยว ส่วนเมล็ดค่อนข้างใหญ่ตามขนาดผล มีความหวานของเนื้อผลประมาณ 17 องศาบริกซ์ ออกดอกในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม ใช้เวลาประมาณ 2 เดือน ในการแตกช่อดอก-ดอกบาน และเริ่มเก็บผลออกสู่ตลาดในช่วงเดือนพฤษภาคม- มิถุนายน ขอบคุณภาพจาก 2.

สื่อเกษตร ครบวงจร อันดับ 1 ที่มีฐานผู้อ่านมากที่สุด นิตยสารในเครือมากที่สุด เราต้องการทำให้วงการเกษตรของไทย พัฒนาแบบก้าวกระโดด และเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อน อุตสาหกรรมเกษตร ของประเทศ อย่างแท้จริง

  1. โทน เล็บ สี ส้ม ตํา
  2. จุดหลอมเหลวของสารผสม
  3. นี เวี ย กลางคืน ปทุมธานี
  4. ภาษี ปี นี้ ปัทมานนท์ฟาร์มจระเข้
  5. ขัด เงา เหล็ก
  6. Scb first โทร bank
  7. บี น้ำ ทิพย์ ฟิล์ม
  8. African violet ราคา meaning
  9. พ่อ แท้ๆ ของ ลิ ซ่า คือ ใคร pantip
  10. คำ น วน btu
  11. คาเฟ่ เด อ มา ภูเก็ต โควิด
  12. อินเวอร์เตอร์ 300w ราคา
  13. เยียวยามาตรา 33 ได้วันไหน
mild-anxiety-คอ